Monday, July 25, 2016

เล่าเรื่องเก่า โยงเรื่องใหม่ (ตอนที่ ๘) - ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙


๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙

ผู้ชมโปรดอ่าน : เล่าเรื่องเก่า โยงเรื่องใหม่ (ตอนที่ ๘)

 

เหตุการณ์บางอย่างในชีวิตเหมือนมีคนกำหนดหรือกำกับอยู่หลังฉาก บางครั้งผู้โลดแล่นบนเวทีอาจนอกบทตามใจปรารถนา เพราะเป็นชีวิตจริงไม่ใช่ละครหรือหนัง แต่หลายครั้งที่สุดท้ายต้องเล่นตามบทจนได้

บทละครหรือหนังชีวิต บางคนตั้งชื่อให้ไพเราะเพราะพริ้งว่า กรรมบันดาลหรือ บุญจัดสรรเพียงแต่ไม่ใช่ พรหมลิขิตที่เล่นตามบทเหมือนหุ่นยนต์หรือเปิดเทป

เรื่องใหม่ที่จะเล่าให้ฟังเกิดขึ้นตอนปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระหว่างผู้เขียนกำลังสนุกสนานกับการอธิบายภาคปฏิบัติของการสอนให้ดูพระสมเด็จเป็นอย่างง่าย ๆ

ผู้เขียนไปพบพระสมเด็จเข้า ทำให้ต้องหยุดเขียนอย่างกะทันหัน

ไม่ใช่แค่องค์สององค์ แต่เห็นเป็นกล่อง

ความจริงไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เขียนเห็นพระสมเด็จมีคราบกรุที่คนขายอ้างว่าเป็นพระสมเด็จกรุเจดีย์ใหญ่วัดบางขุนพรหมใน หรือวัดใหม่อมตรสในปัจจุบัน พระที่เห็นไม่ใช่องค์เดียว มีเต็มกล่อง พระสมเด็จทุกองค์มีตรายางประทับด้านหลัง มีองค์เลื่อมทองจับขอบที่มีพิมพ์แบบเดียวกับพระสมเด็จบางขุนพรหมในหนังสือ และมีเนื้อที่เก่าพอ เพียงแต่ตรายางเท่านั้นที่ไม่ใช่ตรายางที่เห็นกันทั่วไป ทั้งพระสมเด็จของเซียนพระตามหนังสือ หรือพระไม่แท้ที่มีตรายางอีกแบบหนึ่ง

ผู้เขียนนำพระองค์นี้มาวิเคราะห์เรื่องตรายางหลังพระสมเด็จบางขุนพรหมในบทความเดิมของเว็บนี้ พร้อมทั้งทิ้งท้ายไว้ว่า

            เป็นไปได้ไหมว่าพระแท้แต่ตรายางไม่แท้

            โชคดีที่พระสมเด็จชุดใหม่นี้ไม่มีตรายาง มีแต่เนื้อและพิมพ์ที่ยากปฏิเสธได้ เพราะเนื้อถึงยุค พิมพ์ถึงสมเด็จโต

            พระชุดนี้มากับเรื่องเล่าที่เหมือนนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเหลือเชื่อ

            เป็นเรื่องเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์เบื้องหลังการลอบขุดเจาะพระกรุถึงสองครั้ง ครั้งแรกไม่มีคนรู้เพราะคนขโมยไม่ได้ทิ้งหลักฐานไว้ เจดีย์อยู่ในสภาพเดิมไม่มีร่องรอยการขุดเจาะ ทางวัดได้แต่สันนิษฐานว่ามีคนเข้ามาขโมยขุดแต่ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร ไม่เหมือนครั้งที่สองที่คนร้ายเจาะผนังเจดีย์เป็นโพรงแล้วมุดเข้าไปเอาพระออกไปจำนวนมาก

            มิน่าเล่า ตอนเปิดกรุเป็นทางการ จึงเหลือแต่พระสมบูรณ์ให้เช่าเพียง ๒,๙๕๐ องค์ องค์สวย ๆ ก่อนหน้านั้นถูกขโมยออกไปจนหมด

            จากตกใจเรื่องเล่าก็แปลกใจกับพระสมเด็จที่เห็น เพราะหลายต่อหลายพิมพ์ไม่ใช่พิมพ์บางขุนพรหมที่คุ้นเคยมาก่อน โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่ที่มีมากที่สุดและหลายองค์ ไม่ใช่พิมพ์ใหญ่บางขุนพรหม แต่เป็นพิมพ์ใหญ่วัดระฆังที่ไม่มีกรอบกระจกหรือกรอบบังคับพิมพ์

            ความจริงพระสมเด็จวัดระฆังที่ไม่มีกรอบกระจกไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะผู้เขียนตั้งชื่อเป็นพระยุคสองก่อนหลวงวิจารณ์เจียรนัย นำกรอบกระจกมาใช้กับการแกะพระสมเด็จให้มีขนาดเล็กลง และมีความสวยงามมากขึ้น

            พระสมเด็จบางขุนพรหมหลังตรายางที่ผู้เขียนเห็นเป็นกล่องก็ไม่มีกรอบกระจกเหมือนกัน แต่พอดูเนื้อและคราบกรุแล้วปรากฏว่าไม่ใช่ ทำขึ้นภายหลังแน่นอน พระสมเด็จบางขุนพรหมที่ผู้เขียนเห็นเป็นครั้งแรกจึงไม่ผ่านการพิจารณา ไม่ใช่พระแท้ มีแต่องค์เลี่ยมทองเท่านั้นที่ยังกังขาในใจว่าแท้ไม่แท้

            พระสมเด็จชุดนี้แปลก ดูแล้วมีคำถามหลายอย่างผุดขึ้นในใจ

            ประการแรก เป็นไปได้หรือที่จะมีพระสมเด็จให้เห็นจำนวนมากแบบนี้

            อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ผู้เขียนเป็นคนประเภทคิดบวก สันนิษฐานว่าแท้ไว้ก่อนจนกว่าจะพิสูจน์เป็นอื่น ต่างกับคนเล่นพระทั่วไปโดนเฉพาะสายพุทธพาณิชย์ที่มีอคติกับพระทุกองค์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ติเก๊ไว้ก่อน แท้ไม่แท้ค่อยว่ากันทีหลัง สำหรับผู้เขียนผ่านการเช่าบูชาพระเป็นกล่องมาก่อน เข้าใจดีว่าในโลกแห่งพระเครื่องไม่มีใครรู้จริง ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเป็นพระแท้ เพราะทั้งเนื้อและพิมพ์ถูกต้องหมด

            ประการสอง ทำไมพิมพ์ใหญ่มีแต่พิมพ์วัดระฆัง พิมพ์บางขุนพรหมหายไปไหนหมด

            คำตอบมาจากคนให้ข้อมูลที่เล่าให้ฟังว่า พระที่ถูกขโมยมาเป็นพระอยู่ข้างบนเป็นกอง ๆ ไม่ได้เกาะแน่นจับตัวเป็นก้อนแบบพระสมเด็จที่อยู่ล่าง ๆ

            ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือเป็นพระวัดระฆังที่นำมาบรรจุกรุเพิ่มเติมหลังจากเสมียนตราด้วงบรรจุพระสมเด็จบางขุนพรหมในชั้นล่าง ๆ จนครบแล้ว และไม่ใช่จะมีแต่พระสมเด็จวัดระฆัง ยังมีพระจากวัดอื่นที่มีความใกล้ชิด เช่นพระของหลวงปู่ภูวัดอินทร์ และพระพุทธุปบาทปิลันทน์เนื้อขาวรวมอยู่ด้วย

            ถ้าข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง แสดงว่าพระที่บรรจุในกรุเจดีย์ใหญ่มีมากกว่าพระที่เสมียนตราด้วงสร้าง พระในกรุต้องมีจำนวนมากกว่า ๘๔,๐๐๐ องค์ที่เชื่อกันมาตลอด

            ประการที่สาม ทำไมสภาพพระมีทั้งคราบกรุน้อยมาก ไปจนถึงคราบกรุมากแทบไม่เหมือนองค์พระ

            แสดงว่าสภาพคราบกรุไม่ได้บ่งถึงระยะเวลาที่อยู่ในกรุ คำจำกัดความของ กรุเก่า” “กรุใหม่ ก็ไม่เป็นจริง เพราะแต่เดิมเข้าใจกันว่า กรุเก่า คือพระสมเด็จที่ออกจากกรุก่อนมีคราบกรุน้อย กรุใหม่ คือพระสมเด็จที่ออกจากกรุทีหลังตอนเปิดกรุ มีคราบกรุมากเพราะผ่านกาลเวลาและน้ำท่วมใหญ่

            พระชุดนี้มีทั้งคราบกรุน้อยและคราบกรุมาก ตรงกันข้ามกับความเข้าใจแต่ดั้งเดิม

            ประการสุดท้าย พระสองคลองหมายถึงพระสมเด็จยุคสามซึ่งเป็นพิมพ์สวยงามของหลวงวิจารณ์ที่นำมาบรรจุในเจดีย์ใหญ่บางขุนพรหม พระสมเด็จที่เห็นเป็นพระยุคสองไม่ใช่พิมพ์หลวงวิจารณ์ คือเป็น พระสองคลองหรือไม่

            การมาปรากฏตัวของพระยุคสองในกรุบางขุนพรหม เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าพระสมเด็จยุคสองมีจริง และมีอยู่ในกรุบางขุนพรหมเช่นเดียวกับพระสมเด็จยุคสาม

            สายพุทธพาณิชย์คงไม่ชอบใจนักที่พระชุดนี้อาจเป็นหลักฐานพิสูจน์ความเป็นมาของพระสมเด็จยุคสองว่ามีจริง และสมควรได้รับการยอมรับว่าเป็นพระที่สมเด็จโตเป็นคนสร้าง การยอมรับจะทำไปสู่การปฏิเสธสิ่งที่สายพุทธพาณิชย์พยายามกรอกหูว่า พระสมเด็จมีน้อย วงการพระเครื่องจะมีพระสมเด็จจำนวนมากที่มีเนื้อหาและพิมพ์ทรงเดียวกันกับพระชุดนี้ให้เล่นหาอีกจำนวนมากมาย

            วงการพระเครื่องจะไม่เงียบเหงา สายอนุรักษ์นิยมที่พยายามให้ความรู้เรื่องพระสมเด็จพิมพ์ไม่นิยม จะได้มีพันธมิตรในการให้ความรู้แก่นักเล่นพระรุ่นใหม่ว่าพระสมเด็จยุคสองมีจริง และสมควรได้รับการยอมรับ

******************************** จบตอน ๘ *********************************

No comments:

Post a Comment