๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
ผู้ชมโปรดอ่าน : เล่าเรื่องเก่าโยงเรื่องใหม่ (ตอน ๑)
ไม่ได้พบกันหลายเดือนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังให้ท่านผู้อ่านมีความสุขทั้งกายทั้งใจตลอดปีใหม่ ๒๕๕๙
นี้
การทำเว็บพระเครื่องเชิงวิชาการไม่ใช่เรื่องง่าย
ผู้ทำต้องมีใจรัก
ผู้เขียนทำเว็บ พระสมเด็จดอทเน็ต ตั้งแต่ปี
พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็เพราะมีความรักในพระสมเด็จและศรัทธาในองค์สมเด็จพุฒาจารย์ (โต
พรหมรังสี)
ต้องการเผยแพร่กิตติคุณและอัจฉริยภาพของท่านในฐานะเกจิอาจารย์ที่โดดเด่นที่สุดในยุคกรุงรัตนโกสินทร์นี้
ผลงานของท่านมีให้เห็นมากมาย
แต่ที่เด่นที่สุดคือพระผงพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฟักที่สวยที่สุดและเป็นสุดยอดปรารถนาที่สุดสำหรับผู้สนใจสะสมพระเครื่อง
ถ้านับเวลาที่ได้เป็นเจ้าของพระของท่านเป็นองค์แรกจนถึงปัจจุบันก็เกิน
๒๐ ปีแล้ว
พระสมเด็จองค์แรกของผู้เขียนคือพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ปรกโพธิ์ที่แปลกกว่าทั่วไป
คือพระมีความหนาเท่ากับพระสมเด็จสององค์ซ้อนกัน
องค์พระเป็นพิมพ์เกศบัวตูมที่ไม่เคยปรากฏในหนังสือเล่มใด
แถมพระยังถูกฝนกรอบบนจนถึงซุ้ม ทำให้ฝังใจอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่เราจะได้พระสมเด็จแบบเต็มองค์บ้าง
ความสนใจกลายเป็นความอยากรู้ ยังหาพระของท่านไม่ได้ก็ลองหาพระตระกูลสมเด็จอื่น
ๆ ดู พี่เลี้ยงคนที่ให้พระปรกโพธิ์ก็พาไปตระเวนเช่าพระตามที่ต่าง ๆ
จนเริ่มคุ้นกับพระประเภทอื่นทั้งว่าน ดิน ชิน ผง
สมัยนั้นพระดี ๆ
ที่เป็นพระกรุพระเก่ายังหาได้ตามแผงพระทั่วไป
ความตื่นเต้นทวีคูณเมื่อพี่เลี้ยงจับพระกรุพระเก่าได้ในราคาหลักร้อยหลักพัน
มีทั้งพระเบญจภาคี พระปิดตา เหรียญ พระกริ่ง พระรูปหล่อ
สารพัดไปทุกประเภทรวมทั้งพระบูชาขนาดต่าง ๆ
พอได้พระเป็นสมบัติต่อมอยากรู้ก็ทำงาน
คำอธิบายจากพี่เลี้ยงอย่างเดียวไม่พอ
ต้องหาความรู้เพิ่มจากหนังสือและนิตยสารพระเครื่อง หาซื้อให้หมดทั้งเก่าและใหม่เพื่อศึกษาเพิ่มเติม
แต่ถึงแม้จะได้ความรู้จากหนังสือที่อ่านและมีพระองค์จริงให้เปรียบเทียบ
แต่ยังไม่เกิดความมั่นใจ ไม่กล้าเดินแผงจับพระขึ้นส่องด้วยตัวเอง
ต้องอาศัยตาพี่เลี้ยงเป็นคนดูให้ จนกระทั่งคิดว่าเริ่มรู้และมีความมั่นใจมากขึ้น
ศัพท์ในยุคนั้นคืออินทรีย์แก่กล้า จึงเริ่มเดินตามแผงจับพระขึ้นส่องต่อรองราคาบ้าง
แต่ส่วนใหญ่ยังอาศัยพี่เลี้ยงอยู่ดี
ต่อมาได้พระจากแหล่งของเพื่อนพี่ชายที่สะสมมานาน
ประเภทมือเก่าที่ไม่ได้อยู่ในวงการพระเครื่อง แต่เปิดร้านทองขายตลับพระ
จึงมีพระผ่านตาตอนเลี่ยมให้ลูกค้ามากมาย
เช่าพระอย่างสนุกสนานมาหลายปีทั้งพระเครื่องพระบูชาจนมาถึงจุดหักเหที่สำคัญที่สุด
นั่นคือมีเพื่อนผู้หวังดีเป็นห่วงขึ้นมา
วันหนึ่งเพื่อนคนนี้ส่งผู้เชี่ยวชาญสองคนมาดูพระของผู้เขียนถึงที่ทำงานโดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า
คนหนึ่งเชี่ยวชาญพระบูชาระดับอาจารย์ อีกคนชำนายเรื่องพระเครื่อง
ผลสรุปก็คือพระของผู้เขียนเก๊หมดทั้งพระเครื่องพระบูชา
ตอนนั้นผู้เขียนคิดว่าตัวเองพอมีความรู้อยู่บ้าง
ยังเชื่อใจในแหล่งที่ได้พระมาถึงกับโต้แย้งในใจต่อคำตัดสิน แต่ใจมันฝ่อจิตก็ตก เพราะผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่านรู้จริงและไม่ใช่คนขายพระเป็นอาชีพ
ผู้เขียนจึงเชื่อว่าความเห็นทั้งสองท่านไม่มีอะไรแอบแฝง
ผู้เขียนมีสองทางเลือก
ทางหนึ่งคือเลิกเล่นพระ
สาปส่งวงการพระเครื่องไปเลย
อีกทางคือเอาใหม่ สู้กันใหม่
เริ่มต้นนับหนึ่งแบบไม่เชื่อใครอีกแล้ว ศึกษาด้วยตนเองให้รู้จริง
ท่านผู้อ่านคงเดาได้ว่าผู้เขียนเลือกทางไหน
เพราะถ้าเลือกทางแรก ทุกวันนี้คงไม่มีเว็บพระสมเด็จดอทเน็ตแล้ว
เมื่อศึกษาต้องเอาจริงให้รู้จริง
ความที่ไม่มีใครเป็นอาจารย์ทำให้ต้องลองเองทุกเรื่อง
ใช้วิธีครูพักลักจำอย่างเดียวไม่พอ เพราะบางครั้งครูก็ยังเชื่อไม่ได้
ต้องทดลองให้กระจ่างชัดค่อยเชื่อ
ฉะนั้นมาถึงจุดนี้ก็เกือบ ๒๐
ปีแล้วที่ผู้เขียนลองมาทุกอย่างกับพระทุกประเภท ล้างพระด้วยสารพัดน้ำยา
อบพระหรือแม้แต่เอาเข้าเตาเผาพลอยก็ทำมาแล้ว
ไม่เชื่อแล้วทั้งพี่เลี้ยงหรือเพื่อนพี่ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองมาตลอด
ดังนั้นที่ผู้เขียนจั่วหัวไว้ใน
สารพันมุ่งหมาย
ของเว็บพระเครื่องดอทเน็ตให้ท่านผู้อ่านเข้าใจแต่ต้นว่าผู้เขียนศึกษาพระเครื่องแบบเอกเทศ
-
ไม่ใช่คนในวงการ
-
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับค่ายไหน
ศูนย์ใด
-
วิเคราะห์ตามสะดวก
-
วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง
ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้เขียนปฏิบัติจนถึงทุกวันนี้
(จบตอน ๑)
************************************
No comments:
Post a Comment