๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ผู้ชมโปรดอ่าน : เล่าเรื่องเก่า โยงเรื่องใหม่ (ตอน ๕)
วงการพระเครื่องยอมรับพระเนื้อผงที่สมเด็จพุฒาจารย์
(โต พรหมรังสี) สร้าง เพียงสามวัดเท่านั้น ได้แก่ วัดระฆังโฆสิตาราม
วัดใหม่อมตรสหรือวัดบางขุนพรหมใน และวัดไชโย อ่างทอง
หนังสือพระเครื่องรุ่นเก่าบอกไว้ว่าสมเด็จโตสร้างพระไว้หลายแสนองค์
o วัดระฆัง ตรียัมปวายเล่าว่าท่านกังวลจะสร้างไม่ครบ ๘๔,๐๐๐ องค์
o วัดบางขุนพรหมใน เสมียนตราด้วงสร้างบรรจุเจดีย์ประจำตระกูลไว้ ๘๔,๐๐๐
องค์เช่นกัน
o วัดไชโย สมเด็จโตบรรจุพระไว้ในองค์พระพุทธมหาพิมพ์ที่เป็นพระนั่งองค์ใหญ่
น่าจะ ๘๔,๐๐๐ องค์เช่นกัน
แต่ทำไมมีพระสมเด็จโตในวงการพระเครื่องไม่กี่พันองค์
คำตอบคือ
o วัดระฆัง สายพุทธพาณิชย์ยอมรับเพียง ๕ พิมพ์
เหลือพระหมุนเวียนไม่ถึงพันองค์
o วัดบางขุนพรหมใน เปิดกรุพบพระสมบูรณ์เพียง ๒,๙๕๐ องค์
o วัดไชโย ยังอยู่ในองค์พระเกือบหมด
ที่หลุดรอดออกมาตอนองค์พระทรุดพังทลายก็มีข้อกังขา
เพราะนักเล่นรุ่นเก่าอย่างตรียัมปวายยอมรับเฉพาะพิมพ์ ๗ ชั้น ไม่ยอมรับพิมพ์ ๖
ชั้นกับพิมพ์อื่น
พระสมเด็จที่มีน้อยไม่พอกับความต้องการของผู้ศรัทธา
ทำให้เกิดการเสาะแสวงหาพระสมเด็จโตจากกรุตามวัดต่าง ๆ ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับท่านและอาจมีพระของท่านบรรจุกรุอยู่
ตรียัมปวายเล่าไว้ในหนังสือของท่านว่าพระธรรมถาวรที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดบอกว่ามีแค่ในเจดีย์ใหญ่วัดใหม่อมตรสกับองค์พระยืนอุ้มบาตรวัดอินทร์เท่านั้น
ส่วนวัดอื่นที่ตรียัมปวายเล่าว่ามีคนไปลักลอบขุด เช่นวัดศรีสุดาราม วัดตะไกร
วัดละครทำนั้น ไม่พบพระแต่อย่างไร
แฉล้ม โชติช่วง
อ้างถึงบันทึกหลวงปู่คำวัดอมรินทรารามถึงพระใหญ่ที่สมเด็จโตสร้างไว้ตามที่ต่าง ๆ
ได้แก่
o พระนอน ที่วัดสะตือ อยุธยา
o พระนั่ง ที่วัดไชโย อ่างทอง
o พระยืน ที่วัดกลางคลองข่อย ราชบุรี
o พระนั่ง ที่วัดพิตเพียน (กุฎีทอง) อยุธยา
o พระเจดีย์นอน ที่วัดละครทำ งธนบุรี
o และพระยืน ที่วัดอินทรวิหาร ฝั่งกรุงเทพ
นอกจากวัดไชโยกับวัดอินทร์ที่มีประวัติแน่นอนว่ามีพระบรรจุอยู่
วัดที่เหลือเป็นเพียงตำนานเล่าขานให้ผู้ศรัทธาค้นหาว่ามีพระของสมเด็จโตหลงเหลืออยู่หรือไม่
ผู้เขียนเป็นหนึ่งในจำนวนคนเหล่านั้น
ตลอดระยะเวลากว่า ๒๐
ปีที่ผู้เขียนสนใจพระสมเด็จ ได้พบพระสมเด็จโตที่ว่ากันว่ามีคนไปบรรจุไว้ตามวัดต่าง
ๆ มากมาย ถ้าดูแล้วเป็นพระรุ่นเก่าถึงยุค แท้ ราคาไม่แพง ผู้เขียนเก็บสะสมหมด
ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใด นิยมหรือไม่
พระสมเด็จวัดต่าง ๆ ที่ผ่านตา ได้แก่
o วัดระฆัง มีทั้งที่อยู่ในบ่อน้ำมนต์กับบรรจุไหเก็บไว้ที่เพดานโบสถ์
o วัดใหม่อมตรส มีพระพิมพ์สมเด็จจากกรุเจดีย์เล็ก
o วัดอินทรวิหาร มีทั้งที่เก็บอยู่ในองค์พระยืนกับที่แช่น้ำมนต์
o วัดขุนอินทประมูล มีพิมพ์ฐานหนุนกับพิมพ์อื่น
o วัดราชสิงขร มีพิมพ์ครบตามพระสมเด็จบางขุนพรหม
o วัดกัลยาณมิตร ที่มีข่าวพระแตกกรุไม่นาน
o วัดอื่น ๆ ที่พบในจำนวนไม่มาก ได้แก่ วัดราชโอรส
มีทั้งพิมพ์สมเด็จโตและหลวงปู่ภู วัดชิโนรส วัดราชประดิษฐ์ วัดเจ้าอาม วัดหนองปรือ
วัดละครทำ วัดอมรินทร์ มีพระหลวงปู่คำ วัดเครือวัลย์ เป็นต้น
พระพิมพ์สมเด็จที่ผ่านตาและมีสะสมไว้บ้างนั้น
พิมพ์ทรงส่วนใหญ่ไม่เหมือนพิมพ์นิยมที่เล่นหากันแพง ๆ
เนื้อหาหลากหลายแตกต่างออกไปก็มี ล้วนเป็นพระเนื้อผงยุคเก่า
แต่จะเก่าเป็นร้อยปีและทันสมเด็จโตหรือไม่นั้น
ผู้เขียนยังไม่วิเคราะห์ให้ลึกซึ้งลงไป เพียงแต่เก็บสะสมไว้สำหรับวันข้างหน้าเมื่อเห็นพระมามากพอและมีความเข้าใจพระสมเด็จโตเต็มที
ก็จะนำพระเหล่านั้นมาศึกษาอย่างละเอียดว่าเป็นพระที่สมเด็จโตสร้างหรือไม่
ถ้าไม่ใช่ จะเป็นพระยุคท่านที่สร้างโดยเกจิอาจารย์ท่านอื่น หรือสร้างขึ้นภายหลัง
ตั้งใจถึงขนาดจะเขียนเป็นหนังสือให้เป็นเรื่องเป็นราว
ชื่อหนังสือตั้งอยู่ในใจแล้ว เพียงแต่รอเวลาและความพร้อมด้านความรู้ความเข้าใจ
ถึงกระนั้นก็มีพระบางกรุที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
เป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วไป
ทำให้ต้องลัดคิวนำมาพิจารณาก่อนเพราะอยากวิเคราะห์ให้ผู้สนใจสะสมได้รับรู้ข้อมูลทางวิชาการก่อนจะหลงเช่าบูชา
ตัวอย่างแรกคือพระสมเด็จวัดอินทประมูลที่ผู้เขียนวิเคราะห์แล้วลงความเห็นว่าไม่ทันสมเด็จโต
ท่านผู้อ่านที่สนใจติดตามได้ในบทความเก่าชุด ถอดรหัสพระสมเด็จ ในเว็บพระสมเด็จดอทเน็ต
ที่ลงไว้เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๒ ชื่อเรื่อง พระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูล
: แผนสกัดดาวรุ่ง
พระสมเด็จวัดราชสิงขร
เป็นอีกวัดที่ผู้เขียนนำมาเล่าให้ฟัง เพราะมีบทความจากนิตยสารรุ่นเก่าสนับสนุน
คนเขียนถึงกับบอกว่ามีหลายพิมพ์ที่เล่นหากันเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมเลยทีเดียว
ผู้เขียนสะสมพระกรุนี้ไว้พอสมควร มากพอที่คิดว่าทำหนังสือพระสมเด็จกรุนี้ได้
แต่ที่ใกล้เคียงกับพระสมเด็จโตมากที่สุดในด้านเนื้อหาและพิมพ์ทรงก็น่าจะเป็นพระสมเด็จกรุวัดกัลยาณมิตร
เพราะมีครบทุกพิมพ์ของบางขุนพรหม แถมยังมีพระวัดอื่น เช่นเกศไชโย และวัดสามปลื้ม
มารวมอยู่ด้วย
พระกรุนี้ทำให้ผู้เขียนตามเก็บจนครบทุกพิมพ์
ด้วยความกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะทำหนังสือฉบับแรกของการเขียนหนังสือพระเลยทีเดียว
...............................................
จบตอน ๕
No comments:
Post a Comment